โครเอเชีย หืด เฉือนดวลเป้าเจ้าภาพ ลิ่วรอบรองฯ

ศึกฟุตบอลโลกรอบ 8 ทีมสุดท้ายเมื่อวันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมาคู่ระหว่างทีมเจ้าภาพ รัสเซีย พบกับ โครเอเชีย โดยผลในนัดนี้เป็นทางฝั่งของทีมชาติ โครเอเชีย เอาชนะจุดโทษไปแบบสุดมัน 4 – 3 หลังจากที่ทั้งคู่เสมอกัน 2-2 ในเวลา 120 นาที

ในช่วงต่อเวลาดวลจุดโทษเป็นทางฝั่งของทีม “ตราหมากรุก” ที่ทำได้ดีกว่าจากการยิงพลาดของสองผู้เล่นทีมเจ้าภาพอย่าง โฟดอร์ ซโมลอฟ และ มาริโอ เฟอร์นานเดส โดย โครเอเชีย ก็ไม่พลาดส่งผู้เล่นคนสุดท้ายอย่าง อิวาน ราคิติช เป็นผู้ยิงปิดเกมส์เอาชนะไปได้สำเร็จ

สำหรับในเกมส์นี้ทีมเจ้าภาพมาได้ความยอดเยี่ยมของ เดนิส เชรีเชฟ ยิงให้ รัสเซีย ขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 31 แต่หลังจากนั้นในนาทีที่ 39 โครเอเชีย ก็ไล่ตีเสมอเป็น 1-1 จาก อันเดรย์ ครามาริช และ หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่มจบ 90 นาทีด้วยสกอร์ 1 – 1 ทำให้ต้องมีการต่อเวลาพิเศษ และ จากนั้นเข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษก็เป็น โครเอเชีย ที่พลิกขึ้นนำสำเร็จในนาทีที่ 101 จากลูกโหม่งของ โดมากอย วิด้า แต่หลังจากนั้นไม่นานในนาทีที่ 115 รัสเซีย ก็ทำประตูตีเสมอได้สำเร็จจากลูกโหม่งของ มาริโอ เฟอร์นานเดส เช่นกันทำให้เกมส์กลับมาเสมอกัน 2 – 2 ต้องต่อเวลาดวลจุดโทษ

สำหรับประตูขึ้นนำของทีมเจ้าภาพในเกมส์นี้เกิดจากความยอดเยี่ยมของ เดนิส เชรีเชฟ ที่ได้จังหวะประสานงานกับกองหน้าอย่าง อาร์เต็ม ซูบ้า ก่อนเจ้าตัวจะปั่นโค้งด้วยซ้ายเสียบเสาไปอย่างสวยงาม รัสเซีย ออกนำ 1 – 0

แต่หลังจากนั้นอีกเพียง 8 นาทีทาง โครเอเชีย ก็มาตามตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะของ มาริโอ มานด์ซูคิช เป็นคนพาบอลเข้ามาถึงในกรอบทางฝั่งซ้าย และ เปิดมาให้ อันเดรย์ ครามาริช ที่เติมมายิงระยะ 6 หลาบอลเข้าประตูไปไม่เหลือตีเสมอเป็น 1 – 1 ได้สำเร็จ

จบครึ่งแรกไม่มีประตูเพิ่ม

ในช่วงครึ่งหลังครบ 1 ชั่วโมงของเกมส์ โครเอเชีย น่าได้ประตูออกนำแบบสุดๆจากจังหวะของความผิดพลาดของกองหลัง รัสเซีย ที่เคลียร์บอลไม่ดีบอลกลับมาเข้าทาง อิวาน เปริซิช ได้ยิงหักข้อแต่บอลชนเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย จบเกมส์ 90 นาทีเสมอกัน 1 – 1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป

ในช่วงต่อเวลาพิเศษหลังจาก โครเอเชีย ทำเกมส์บุกอยู่นานพวกเขาก็มาได้ประตูออกนำสำเร็จจากจังหวะลูกเตะมุมของ ลูก้า โมดริช เปิดมาถึง โดมากอย วิด้า ที่เติมมาขึ้นเบียดโหม่งเข้าไปอย่างสวยงาม โครเอเชีย นำ 2 – 1 จบครึ่งแรกของช่วงต่อเวลาพิเศษด้วยสกอร์ 2 – 1

ในช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งเวลาหลัง รัสเซีย ทำประตูตีเสมอ 2 – 2 ได้สำเร็จจากลูกฟรีคิกของตัวสำรองอย่าง อลัน ซาโกเยฟ ที่เปิดมาถึง มาริโอ เฟอร์นานเดส วื่งมาโหม่งเข้าไปได้สำเร็จสกอร์กลับมาเท่ากัน และ ต้องต่อเวลาไปถึงช่วงดวลจุดโทษ

ในช่วงดวลจุดโทษความยอดเยี่ยมของ ดานิเยล ซูบาซิช นายทวาร โครเอเชีย รายนี้อีกครั้งที่สามารถเซฟลูกยิงของ โฟดอร์ ซโมลอฟ ได้ตั้งแต่ต้นแต่หลังจากนั้น โครเอเชีย ก็มาพลาดยิงไม่เข้าจาก มัตเตโอ โควาซิช และ หลังจากนั้น มาริโอ เฟอร์นานเดส กองหลังของทีมเจ้าภาพก็มาพลาดยิงออกไป และ เป็นทาง โครเอเชีย ทั้ง ลูก้า โมดริช และ โดมากอย วิด้า ยิงไม่พลาดทั้งคู่ และ ปิดท้ายด้วยประตูของ อิวาน ราคิติช พาพากเขาเก็บชัยชนะไป 4 – 3 เข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ