พนันบอลโลก.com
ทีมชาติ โครเอเชีย จะเล่นกับ ฝรั่งเศส ในศึกฟุบอลโลกรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรก และ ในส่วนของทีมชาติ อังกฤษ พวกเขาจะเผชิญหน้ากับ เบลเยียม ในการชิงอันดับที่ 3
โครเอเชีย จะเผชิญหน้ากับ ฝรั่งเศส ในรอบชิงชนะเลิศในศึกฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกของพวกเขาหลังจากที่พวกเขาพลิกกลับมาเอาชนะ อังกฤษ ด้วยชัยชนะ 2-1 ที่สนาม ลุซนิกิ สเตเดี้ยม โดยในเกมนี้ทีมชาติ อังกฤษ ได้ประตูนำก่อนจาก คีแรน ทริปเปียร์ แต่ โครเอเชีย ก็มาตามตีเสมอจาก อิวาน เปริซิช ก่อนที่จะเป็น มาริโอ มานด์ซูคิช รับหน้าที่ฮีโร่พังยิงชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ ช่วยให้ทีม “ตาหมากรุก” โครเอเชีย ได้ผ่านเข้าชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลโลก 2018 ได้สำเร็จ
ประตูชัยจาก มาริโอ มานด์ซูคิช ในนาที 109 ในครั้งนี้ทำให้ โครเอเชีย สามารถทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในฟุตบอลโลกหลังพวกเขาเคยแพ้ต่อ ฝรั่งเศส ในปี 1998 ในเกมส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฟุตบอลเป็นครั้งแรกนั้นเอง
ทีม “สิงโตคำราม” ในเกมส์นี้พวกเขาได้ประตูนำไปก่อน 1-0 ในครึ่งแรกจากลูกฟรีคิกของ คีแรน ทริปเปียร์ ในนาทีที่ 5 ก่อนที่ทีม “ตราหมากรุก” จะมาตามตีเสมอได้จาก อิวาน เปริซิช ในช่วงครึ่งหลังนาที 68 และ พอถึงช่วงต่อเวลาพิเศษทีม “ตราหมากรุก” ก็ฮึดกลับมาจนได้ประตูชัยจาก มาริโอ มานด์ซูคิช กองหน้าร่างยักษ์จาก ยูเวนตุส ในนาที 109 จบเกมส์ส่งผลให้ โครเอเชีย ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของศึก ฟุตบอลโลก เป็นครั้งแรกได้สำเร็จ
สำหรับประตูขึ้นนำของทีมทชาติ อังกฤษ ในเกมส์นี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 5 จากจังหวะที่ เดเล่ อัลลี ถูก ลูก้า โมดริช และ เป็น คีแรน ทริปเปียร์ รับหน้าที่ยิงฟรีคิกเข้าไปอย่างสวยงาม
จากนั้นในช่วงนาที 30 อังกฤษ เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง จ่ายบอลทะลุช่องมาให้ แฮร์รี่ เคน ได้หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวแต่ยังไม่ผ่านมือ ดานิเยล ซูบาซิช นายทวาร โครเอเชีย จากนั้น อังกฤา หวิดจะได้ประตูนำ 2 – 0 จากจังหวะของ เจสซี่ ลินการ์ด ได้ยิงโล่งๆแต่บอลหลุดกรอบไปแบบน่าเสียดายสุดๆ
จากนั้นก่อนหมดครึ่งแรกเป็นโอกาสของทาง โครเอเชีย ในจังหวะที่ แฮรี่ แม็คไกวร์ เคลียร์บอลไม่ขาดมาบอลกลับมาเข้าทาง อันเต้ เรบิช ยิงไปตรงตัว จอร์แดน พิคฟอร์ด
ในเกมส์ครึ่งหลัง โครเอเชีย มีรูปเกมส์ที่ดีขึ้น แต่เป็น อังกฤษ ที่เกือบได้ประตูหนีห่างจากจังหวะโหม่งของ แฮรี่ เคน
จากนั้นความพยายามของ โครเอเชีย ก็เป็นผลสำเร็จในนาที 68 จากจังหวะที่ ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้ ได้จังหวะเปิดบอลเข้ามากดดัน และ เป็น อีวาน เปริซิช ที่สอดเข้ามาทำประตูได้สำเร็จ โครเอเชีย กลับมาตีเสมอเป็น 1 – 1
จากนั้นความวิตกกังวลเริ่มมีผลต่อทีมพลังหนุ่มของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เป็นครั้งแรกและความผิดพลาดเริ่มคืบคลานเข้ามาในเกมส์ของพวกเขาเมื่อ มาริโอ มานด์ซูคิช เกือบทำประตูได้ในช่วงก่อนหมดเวลา 10 นาที
จาช่วงต่อเวลาพิเศษทั้งสองทีมเล่นแบบระวังเอาไว้ก่อน แต่นาทีที่ 99 อังกฤษ เกือบได้ประตูจากลูกเตะมุมที่ ทริปเปียร์ เปิดเข้ามา และเป็น จอห์น สโตนส์ ได้โขกเต็มๆ แต่ เวอร์ซัลจ์โก้ โหม่งสกัดบนเส้นไว้ได้
หลังจากนั้นในนาที 109 โครเอเชีย มาได้ประตูนำ 2-1 จากจังหวะที่ อีวาน เปริซิช ตั้งบอลโหม่งเข้ามาให้กับ มานด์ซูคิช คนเดิมคราวนี้ไม่พลาดส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายกลายเป็นประตูชัยในเกมส์นี้ไป
